จับเทรนด์ของขวัญปีใหม่ แนวสุขภาพยังแรง เรียบง่ายแบบ ณัฐนินท์ ธรรมวิทย์เมธี

 ณัฐนินท์ ธรรมวิทย์เมธี เผยว่าเทศกาลปีใหม่ส่งท้ายปีเก่า ของคู่กันที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ คือ ของขวัญและกระเช้าปีใหม่ ในปีนี้ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้า

และคึกคักอย่างมาก แม้ว่ามีหลายหน่วยงานราชการมีประกาศงดรับของขวัญปีใหม่อย่างกระเช้า เพื่อแสดงความโปร่งใส

โดยผู้บริหารห้างค้าปลีก และศูนย์การค้าร่วมฉายภาพของตลาดของขวัญและกระเช้าปีใหม่ตรงกันว่า ยังคงมีลูกค้าให้ความสนใจซื้อหากระเช้าปีใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาที่รัฐบาลมีมาตรการช้อปช่วยชาติ ที่นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท 

และคึกคักอย่างมาก แม้ว่ามีหลายหน่วยงานราชการมีประกาศงดรับของขวัญปีใหม่อย่างกระเช้า เพื่อแสดงความโปร่งใส

น.ส.ภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหารร้านท็อปส์ และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ระบุว่า คาดว่าตลาดรวมกระเช้าของขวัญปีใหม่ในปี 2560 จะเติบโตอย่างน้อย 20% หรือมีมูลค่า 2,400 ล้านบาท จากปี 2559 ที่มีมูลค่า 2,000 ล้านบาท นับว่าเติบโตขึ้นมาในระดับเท่ากับปี 2558 ที่มีมูลค่า 2,400 ล้านบาท

“ในปีนี้บริษัทได้ใช้งบ 100 ล้านบาท จัดแคมเปญกระเช้าของขวัญปีใหม่ โดยมีกระเช้าให้เลือกถึง 140 แบบ ราคาไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมา อยู่ที่กระเช้าละ 295-19,200 บาท และสามารถเลือกสินค้าจัดลงกระเช้าเองได้ตามต้องการ มีการนำสินค้าชุมชนมาจัดกระเช้าปีใหม่กว่า 10,000 ใบ และมีสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ร่วมจัดกระเช้าเป็นครั้งแรกด้วย ขณะเดียวกันมีโปรโมชั่นส่วนลด หรือบัตรของขวัญ ใช้บัตรเครดิตผ่อนชำระได้ คาดว่าในปีนี้บริษัทจะมีส่วนแบ่งตลาดกระเช้าของขวัญปีใหม่เป็น 35% และเติบโต 15% จากปีที่ผ่านมา”  

 ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมากำลังซื้อกลับมาแล้ว จะเห็นจากการออกมาจับจ่ายของผู้บริโภคมีมากขึ้น ประกอบกับมีมาตรการช้อปช่วยชาติด้วย ในส่วนราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำหน่ายผ่านซุปเปอร์มาร์เก็ตของเราราคายังทรงตัวไม่ได้ปรับราคาเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

ขณะที่ น.ส.สลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท บริษัท เอกชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหารห้างเทสโก้ โลตัส บอกว่า ประชาชนมาจับจ่ายช่วงส่งท้ายปีอย่างคึกคัก และคาดว่าในช่วงสุดสัปดาห์วันเสาร์-อาทิตย์นี้จะคึกคักอย่างมาก ในส่วนกระเช้าของขวัญปีใหม่มีทั้งกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป และกลุ่มสุขภาพ ก็ได้รับความนิยมเสมอมา เช่น รังนก ซุปไก่สกัด รวมถึงกระเช้าผักและผลไม้สด ทำให้ทางห้างจึงนำเข้าผลไม้จากต่างประเทศเข้ามาจัดกระเช้าด้วย ในราคาที่เข้าถึงได้ เช่น สตรอเบอรี่ บลูเบอรี่ องุ่น แอปเปิล โดยราคากระเช้าของขวัญปีใหม่ของทางห้างมีราคาเฉลี่ยตั้งแต่ 700-2,000 กว่าบาท

“สินค้าอื่นๆ ที่ได้รับความนิยม นอกเหนือจากกระเช้าคือ สินค้าอุปโภคบริโภค และเครื่องดื่มต่างๆ ที่คนจะนิยมซื้อไว้รับประทานและเลี้ยงฉลองภายในครอบครัวและกลุ่มเพื่อน โดยช่วงนี้คนออกมาจับจ่ายอย่างคึกคักเพราะใกล้วันหยุดยาวเข้ามาทุกทีแล้ว” น.ส.สลิลลากล่าว 

ขณะที่ผู้บริหารจากห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของไทย ระบุว่า กระเช้ากลุ่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอยู่ระหว่างราคา 1,000-2,000 บาท โดยกลุ่มลูกค้าจะมีทั้งลูกค้าทั่วไป หน่วยงาน ห้างร้าน และองค์กร นอกจากนี้ยังมีกระเช้าระดับราคา 10,000 บาทขึ้นไป หรือกระเช้ากลุ่มพรีเมียมที่จัดตามความต้องการ พบว่ามีปริมาณการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น

สำหรับพฤติกรรมในการคัดเลือกกระเช้าของลูกค้าแตกต่างกันออกไป โดยกลุ่มลูกค้าทั่วไปเลือกกระเช้าจากโปรโมชั่นและราคา รวมถึงความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ในกระเช้า และให้ความสำคัญกับดีไซน์ของกระเช้า ส่วนกลุ่มลูกค้าองค์กรจะให้ความสำคัญกับโปรโมชั่นและราคา ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ดีไซน์ของกระเช้า และบริการส่งกระเช้า ส่วนวัตถุประสงค์ในการเลือกซื้อกระเช้ามีทั้งเป็นการขอบคุณลูกค้าและมอบให้กับบุคคลที่เคารพรัก แต่ปริมาณที่ซื้อจะลดลงจากเดิม โดยซื้อเท่าที่จำเป็น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและสินค้ามีราคาแพงขึ้น

น.ส.วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด เดอะ มอลล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ (The Mall Shopping Center) ชี้ว่า ดูจากฐานลูกค้าที่ใช้บัตรสมาชิกของศูนย์การค้า M Card ที่มีฐานลูกค้าอยู่ 3.5 ล้านคน ตั้งแต่ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาลูกค้านิยมซื้อของขวัญและกระเช้าปีใหม่เพิ่มมากขึ้น คาดว่าสุดสัปดาห์นี้จะมีความคึกคักอย่างมากถึงมากที่สุด เพราะเป็นวันหยุดที่คนจะเข้ามาเดินซื้อของเพื่อเตรียมรับกับปีใหม่และเทศกาลคริสต์มาสในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ โดยของขวัญที่นิยมซื้อกันในช่วงนี้จะเป็นไอเท็มเล็กๆ สินค้ากลุ่มวัยรุ่นและครอบครัวได้รับความนิยม รวมถึงช็อกโกแลต เด็กๆ ซื้อของเพื่อไปจับสลากของขวัญด้วย ในส่วนกระเช้าของขวัญ เทรนด์สุขภาพยังได้รับความนิยมตลอดกาล เช่น กระเช้าสินค้าอินทรีย์ (ออร์แกนิค) ผักผลไม้สด ซึ่งเป็นสินค้ากลางๆ ให้ได้ทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ กระเช้าที่ลูกค้าซื้อมีทั้งให้คนที่เคารพรักแล้ว องค์กรระหว่างองค์กรก็นิยมซื้อให้แก่กันและกันด้วย

ด้านข้อมูลจากการจัดงานแสดงสินค้าของขวัญของแต่งบ้าน สินค้าแฟชั่น ส่งท้ายปลายปี ก็คึกคักไปในทิศทางเดียวกัน น.ส.บุษยา ประกอบทอง ผู้จัดการทั่วไปบริษัท เอ็น.ซี.ซี.เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด ระบุว่า งาน Gift Fest by Thailand Bestbuys ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-17 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากผู้เข้ามาร่วมงานเป็นอย่างดี โดยตลอดระยะเวลาการจัดงานทั้ง 5 วัน มีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 120,000 คน เงินสะพัดกว่า 150 ล้านบาท ซึ่งสินค้าที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานมากที่สุดคือ สินค้าประเภทกระเช้าสำเร็จรูป เสื้อผ้าแฟชั่น และสินค้ากิฟต์ช้อป ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่งว่ากำลังซื้อจากผู้บริโภคนั้นกำลังกลับเข้าสู่สภาวะปกติ

“ภาพบรรยากาศคนจับจ่ายที่เราไม่เห็นมาสักระยะหนึ่งแล้ว เริ่มกลับมาคึกคักกันอีกครั้ง เห็นได้จากการจับจ่ายภายในงานที่มีประชาชนเลือกซื้อสินค้ากันอย่างคึกคัก ประกอบกับผู้ประกอบการที่นำสินค้ามาจัดจำหน่ายได้นำสินค้าที่มีคุณภาพมาจัดจำหน่ายในราคาสุดพิเศษจริงๆ และยังได้มีการประชาสัมพันธ์ตามช่องทางของผู้ประกอบการเอง ทำให้ผู้ที่สนใจในสินค้านั้นๆ เดินทางมาจับจ่ายเพิ่มขึ้นด้วย” น.ส.บุษยาระบุ

ขณะที่ผู้กำกับดูแลราคาสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างมีความสุขช่วงท้ายปี นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุว่า ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบราคาสินค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่เพื่อป้องกันผู้ค้าเอาเปรียบผู้บริโภค โดยเฉพาะการจัดกระเช้า ที่กำหนดให้ห้างร้านต่างๆ ต้องปิดป้ายแสดงราคาสินค้าทุกชิ้นที่อยู่ในกระเช้า รวมถึงภาชนะบรรจุเพื่อให้ผู้บริโภคเห็นราคาได้ชัดเจน และห้ามนำสินค้าหมดอายุมาจำหน่าย ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการร้องเรียน

ถือเป็นความคึกคักของกำลังซื้อส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เพื่อส่งความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่