โลกของเรา เรื่องเล่าจาก ณัฐนินท์ ธรรมวิทย์เมธี
![รูปภาพ](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg3mx5n4LzN9CdpH_zoto-fyaT4lc3bETnlKG-hHPau5QF6Bp0SHeKe-R5NcfnwvulkuAiAaEv2kNAUkI4bDdd5tgqZ_4LYoxmA2Gmz5dXo6jic9ehxLbE8H15K7LzbtjwvS_MDLaVayxs/s320/%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2582%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2.jpg)
เราใช้ชีวิตบนโลกนี้ใบเดียวกันขนาดเท่ากัน แต่เรามีความรู้สึกต่อโลกใบนี้ไม่เหมือนกัน ณัฐนินท์ ธรรมวิทย์เมธี กล่าวว่าบางคนอาจมองดูโลกใบนี้น่าอยู่แสนสุขแสนสบาย และอยากอยู่นานๆ ขณะที่บางคนอาจพูดว่า โลกใบนี้ไม่มีอะไรน่าดูน่าอยู่เลย ตรงกันข้ามเป็นโลกที่เต็มไปด้วยปัญหาและถูกปกคลุมด้วยความสิ้นหวัง โลกที่ผมพูดถึงผู้อ่านคงเข้าใจดี ผมไม่ได้หมายถึงโลกวัตถุ แต่พูดถึงโลกที่เป็นนามธรรมไม่ใช่รูปธรรม พระเจ้าทรงสร้างโลกแห่งรูปธรรมแต่โลกนามธรรมมนุษย์เป็นผู้สร้าง โลกที่เราอยู่อาศัยจะน่าอยู่หรือน่าชังเป็นเรื่องของความรับผิดชอบของแต่ละคน ถ้าจะมีคนออกไปให้สำรวจด้วยการถามว่าอยากจะให้โลกที่เราอยู่เป็นอย่างไร ผมค่อนข้างจะแน่ใจว่าเกือบร้อยเปอร์เซนต์จะตอบว่า อยากให้โลกเราเป็นโลกแห่งความสงบสันติ เป็นโลกที่ไม่เบียดเบียนกัน เป็นโลกแห่งความเอื้ออาทร เมื่อพบกันก็ยิ้มให้กัน เมื่อทำอะไรผิดพลาดก็กล่าวคำขอโทษและอภัยให้กัน และมองเห็นคุณค่าของกันและกัน แล้วคงจะมีคำถามเกิดขึ้นว่า โลกดังกล่าวเป็นโลกแห่งจินตนาการจะเกิดขึ้นจริงได้อย่างไร เพราะโลกแห่งความเป็นจริงเป็นคนละเรื่อง ถ้าทุกคนคิดเช่นนี้ เชื่อเช่นนี้ คงจะไม่มีใครอยากจะท